วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การศึกษานอกสถานที่ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี

1. สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล เป็นแหล่งการเรียนรู้ต้นแบบของกระทรวงศึกษาธิการ เพราะเหตุใด และเป็นแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทใด

- เพราะ มีโครงสร้างการดำเนินงานที่ชัดเจน  และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- เป็นแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ประเภทอาคารสถานที่

2. หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกแหล่งการเรียนรู้ต้นแบบตลอดชีวิตมีอะไรบ้าง

- มีการวางแผนในการดำเนินงานที่ชัดเจน
- คนทุกระดับสามารถเข้าถึงได้
- เป็นแหล่งเรียนรู้ได้ตลอดเวลา

3. ให้เขียนผังความคิดความรู้ที่ได้จากการทัศนศึกษา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล


4. อธิบายประเภทของสื่อและเทคโนโลยีการศึกษาในแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ ณ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ตามกรวยประสบการณ์ของเอดการ์เดล ซึ่งสามารถใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้

วจนสัญลักษณ์ - ป้ายบ่งบอกชนิดสัตว์ทะเล ทั้งชื่อสามัญ และชื่อทางวิทยาศาสตร์
ทัศนสัญลักษณ์ - ป้ายสัญลักษณ์บอกทางต่างๆ
ภาพนิ่ง การบันทึกเทป วิทยุ - รูปสัตว์ทะเลประจำตู้แสดงต่างๆ
ภาพยนตร์ โทรทัศน์การศึกษา - การบรรยายให้ความรู้ทางโทรทัศน์บริเวณตู้ปลาใหญ่
นิทรรศการ - นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การศึกษานอกสถานที่ - วิทยากรพาชมสถานที่พร้อมบรรยายให้ความรู้
การสาธิต - การแสดงโชว์การให้อาหารปลาในตู้ปลาใหญ่
ประสบการณ์นาฎการ - ไม่มี
ประสบการณ์จำลอง - สัตว์ทะเลสตั๊ฟ และ ตัวอย่างแห้ง
ประสบการณ์ตรงที่มีความหมาย - การชมสัตว์ทะเลต่างๆที่มีชีวิตในตู้จัดแสดง

 

5. สัตว์ใต้ทะเลที่สมญานามว่าเป็นราชาแห่งท้องทะเลคือสัตว์ชนิดใด

-ปลาฉลาม

6. น้ำทะเลที่อยู่ในตู้ปลานำมาจากไหน

- แสมสาร ในช่วงหน้าฝน


7.ชั้นที่ 1 ของแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มีกี่ส่วนอะไรบ้าง

- มี 7 ส่วน คือ 7.1 สัตว์ทะเลในเขตน้ำขึ้น น้ำลง
                       7.2 ปลาในแนวปะการัง
                       7.3 สัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง
                       7.4 ปลาเศรษฐกิจ
                       7.5 ปลารูปร่างแปลก และปลาที่มีพิษ
                       7.6 ห้องจัดนิทรรศการ
                       7.7 ตู้ปลาขนาดใหญ่

8. ชั้นที่ 2 ของแหล่งทรัพยากรการรียนรู้สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มีกี่ส่วนอะไรบ้าง

- 8.1 ส่วนจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
  8.2 ส่วนแสดงเรื่องราวของอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตในทะเล
  8.3 ส่วนของนิเวศวิทยาศาสตร์ทางทะเล และสัตว์ทะเลที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตคนไทย


9. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ชื่ออะไร

- มาโนช โกมลวาณิช หรือพี่หมึก

10. ถ้านิสิตได้รับมอบหมายให้สอนวิชาศิลปะ เกี่ยวกับรูปร่างรูปทรง และทฤษฎีสี โดยใช้สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลเป็นแหล่งเรียนรู้ ให้นิสิตเขียนลำดับขั้นตอนของการเรียนรู้ โดยใช้กิจกรรมเกมส์มาช่วยในการจัดการเรียนรู้ โดยเขียนให้ครอบคลุม 3 ประเด็น ได้แก่

1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน

     - ชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ  ถามความรู้นักเรียนเกี่ยวกับรูปร่างรูปทรงว่ามีอะไรบ้าง
     และทฤษฎีสีเป็นอย่างไร  เพื่อให้ทราบความรู้เดิมของนักเรียน

2. ขั้นสอน

     - อธิบายความรู้ให้นักเรียนฟังเกี่ยวกับรูปร่างรูปทรงแบบต่างๆ มีลักษณะและชื่อเรียกอย่างไรบ้าง
     และอธิบายเรื่องทฤษฎีสี  พร้อมมีรูปภาพประกอบให้นักเรียนดู  และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถาม
     ข้อสงสัย
     - เมื่อนักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับรูปร่างรูปทรงแบบต่างๆ และทฤษฎีสีแล้ว ก็พานักเรียนเข้าชม
สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล  พร้อมวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้  และให้นักเรียนวาดรูปพร้อมระบายสีโดยใช้ความรู้ที่ได้เรียนไป  ในการวาดและระบายสีปลาหรือสัตว์ทะเลที่ตนเองชอบให้สวยงาม

3. ขั้นสรุป

     - เมื่อนักเรียนวาดรูปเสร็จแล้วและดูปลาเสร็จเรียบร้อย  ก็ให้นักเรียนออกมาแสดงรูปวาดของตนเองให้เพื่อนๆดู  และอธิบายว่าว่าปลาที่ตนเองวาดคืออะไร มีรูปร่างลักษณะอย่างไร จนครบทุกคน  และให้เพื่อนๆแสดงความคิดเห็นว่ารูปของใครสวยที่สุดจำนวน 3 คน ก็จะมีรางวัลมอบให้
     - ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้ในวันนี้  และครูแนะนำในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน


-

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แหล่งการเรียนรู้ประเภทบุคล

แหล่งการเรียนรู้ประเภทบุคคล 

ต็อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์  ผู้ก่อตั้งบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด 


ประวัติ

           ชื่อจริงอิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ (เดิมชื่อว่า ต่อพงศ์) เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 
 ในครอบครัวนักธุรกิจ

การศึกษา 

     - อนุบาลและประถมศึกษาจบจากโรงเรียนปานะพันธ์วิทยา 
     - มัธยมศึกษาตอนต้นจบจากโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ เมืองทองธานี
     - มัธยมศึกษาตอนปลายจบจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี  
    - ระดับอุดมศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้า คณะบริหาร แต่ไม่จบ และปัจจุบันกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

ปัจจุบัน

 เป็นเจ้าของกิจการสาหร่ายเถ้าแก่น้อย

การทำธุรกิจ

ต๊อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์  ก่อนหน้านี้เขาถูกว่าเป็นคนไม่เอาถ่าน ไม่สนใจเรียน เพราะติดเกม โดยเขาเริ่มเล่นเกมออนไลน์ Everquest มาตั้งแต่ ม.4 จนสามารถสะสมแต้มจนรวยที่สุดในเซิร์ฟเวอร์ และกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเกมดังกล่าว จนมีฝรั่งมาขอซื้อไอเท็มที่หายากในเกมจากเขา และนั่นก็เป็นการเริ่มต้นสร้างรายได้จากการซื้อขายไอเท็มเกมดังกล่าว รวมกับการที่เขาเป็นผู้ทดสอบระบบเกมในฐานะคนเล่น ก็สร้างรายได้ให้เขามากมาย จนมีเงินเก็บเป็นหลักแสนบาท
ด้วยความที่เป็นเด็กติดเกม ต๊อบ อิทธิพัทธ์ จึงเรียนจบชั้นระดับมัธยมมาได้อย่างยากลำบาก และเรียนต่อระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งตอนนั้นนั่นเองเขาก็เริ่มก้าวเข้าสู่ถนนแห่งเส้นทางธุรกิจ พร้อมตั้งใจจะทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงด้วยการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และในช่วงจังหวะที่เกมออนไลน์เริ่มไม่เป็นที่นิยมเหมือนเคย เขาก็หารายได้จากช่องทางอื่น ทั้งขายเครื่องเล่นวีซีดี ดูทำเลเปิดร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่เป็นที่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเขาได้ไปเดินงานแฟร์ช่องทางธุรกิจ ซึ่งในงานนั้นมีเฟรนไชส์จากประเทศญี่ปุ่นมาออกบู๊ท ด้วยความที่เขาเป็นคนชอบกินเกาลัดเลยสนใจธุรกิจนี้เป็นพิเศษ จึงเข้าไปสอบถามค่าเฟรนไชส์เกาลัดดังกล่าว แต่ทว่าราคาสูงเกินกำลังที่เขามี เลยขอแค่เช่าตู้คั่วเกาลัดเท่านั้น แล้วมาสร้างเฟรนไชส์เป็นของตัวเอง และเมื่อวันที่เขาต้องไปเซ็นสัญญาซื้อขายเกาลัดที่ห้างแห่งหนึ่ง ก่อนออกจากบ้านเขาได้ยินคุณพ่อพูดกับเพื่อนว่า "ลูกอั้วกำลังจะเป็นเถ้าแก่น้อยแล้ว" คำว่าเถ้าแก่น้อยที่ได้ยินตอนนั้นนั่นเองที่เป็นที่มาของชื่อ "เถ้าแก่น้อย" สาหร่ายทอดกรอบในปัจจุบัน
เศรษฐีร้อยล้าน ได้ใช้เวลาเพียงแค่ปีกว่าๆ ขยายเฟรนไชส์เกาลัดเถ้าแก่น้อย ได้กว่า 30 สาขา และเมื่อเขาเห็นว่า เฟรนไชส์ของเขาขายได้หลายแห่งแล้ว เขาจึงคิดจะทำสินค้าอื่นเพิ่มเติม จึงลองนำอย่างอื่นมาวางขายในร้าน ไม่ว่าจะเป็น เกาลัด ลูกท้อ ลำไยอบแห้ง และสาหร่าย แต่สินค้าที่ขายดีที่สุดในตอนนั้นกลับไม่ใช่เกาลัด แต่กลายเป็นสาหร่ายทอดกรอบ ซึ่งนั่นเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาอยากต่อยอดธุรกิจในการทำสาหร่ายทอดตรา "เถ้าแก่น้อย" อย่างจริงจัง
หลังจากนั้นเขาก็พยายามศึกษา หาความรู้เกี่ยวกับสาหร่าย และได้ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง โดยเริ่มจากบรรจุซองพลาสติกไปฝากตามร้านค้าต่างๆ แต่ก็มีอุปสรรคมากมาย ทั้งสินค้าหมดอายุเร็ว รูปแบบแพ็กเกจไม่สวย จึงทำให้เขากลับมาคิดว่า จะทำอย่างไรให้สินค้าเก็บไว้ได้นาน มีแพ็คเกจที่น่าสนใจ และสามารถขายในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ได้
แต่พรสวรรค์ทางการตลาดของเขาก็ได้จุดประกายความคิดอีกครั้ง เขาได้นำกระแสเกาหลี กระแสญี่ปุ่น เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ โดยอยากให้ผู้บริโภคจดจำสินค้าของ เขาได้ทันทีที่แรกเห็น เขาจึงทำโลโก้เป็นเด็กน่ายิ้ม ดูน่ารักมีความสุข อีกทั้งถือธงเพื่อให้รู้ว่า ถึงจะเป็นของกินเล่นแต่มีคุณค่าทางอาหารสูง รวมไปถึงเพิ่มรสชาติต่าง ๆ ให้หลากหลาย ตอบรับความต้องการของแต่ละคนและเมื่อเขาได้ปรับปรุงสินค้าเรียบร้อยแล้ว เขาจึงนำสาหร่ายเถ้าแก่น้อยไปเสนอแก่ 7-11 อีกครั้ง และจากนั้นก็ได้รับการติดต่อกลับมาในทันทีว่า "ภายใน 3 เดือน สินค้าคุณพร้อมจะวางขายในร้าน 7-11 จำนวน 3,000 สาขาทั่วประเทศ หรือไม่" เมื่อได้ยินดังนั้น คำถามก็ประดังประเดเข้ามาในหัวของเขาว่า เขาต้องทอดสาหร่ายกี่แผ่น ใช้คนทอดกี่คน และจะทำทันหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นมีคำถามอยู่เต็มหัวไปหมด แต่เขาก็ตอบกลับ 7-11 ไปเกือบจะทันทีว่า พร้อมครับ!!!
หลังจากที่ ต๊อบ อิทธิพัทธ์ ตอบตกลงไปแล้ว เขาก็ต้องกับมานั่งคิดกับปัญหา และสิ่งที่ตามมาทั้งการสร้างโรงงาน เงินทุน แหล่งวัตถุดิบ การนำเข้าเครื่องจักรต่าง ๆ เพื่อผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน พร้อมส่งขายแก่ 7-11 กว่า 3,000 สาขา ในระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น เขาจึงเดินหน้าด้วยการเริ่มต้นหาทุนสร้างโรงงาน โดยการไปขอกู้ยืมจากธนาคารแห่งหนึ่ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธกลับมา นั่นเป็นเพราะว่า ในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 20 ปี เท่านั้น และเมื่อเขากู้เงินไม่ผ่าน เขาจึงยอมตัดใจขายธุรกิจเฟรนไชส์เกาลัดทิ้ง ซึ่งเฟรนไชน์กว่า 30 สาขาดังกล่าว สร้างรายได้ให้เขาเดือนละกว่าล้านบาทเลยทีเดียว แต่กว่าที่เขาจะตัดสินใจขายเฟรนไชส์แรกที่เขาปลุกปั้นมากับมือ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและสำคัญต่อจิตใจของเขามาก แต่เขาก็ต้องขายด้วยความเสี่ยง เพราะเขาไม่รู้เลยว่าธุรกิจสาหร่ายนั้น  จะดีเท่ากับธุรกิจเกาลัดหรือไม่
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของสาหร่ายเถ้าแก่น้อย
ในขณะที่ธุรกิจกำลังก้าวหน้า ต๊อบ อิทธิพัทธ์ ได้ตัดสินใจดร๊อปเรียนไว้ตอนปี 1 เพื่อนำเวลามาทำธุรกิจส่วนตัวอย่างเต็มตัว ส่วนทางด้านเงินที่ขายเฟรนไชส์เกาลัด ก็นำมาลงทุนกับสาหร่ายทั้งหมด โดยการสร้างโรงงานผลิตสาหร่ายทอด ซึ่งมีพนักงานก็คือครอบครัวของเขาทุกคน และคนงานอีกเพียงแค่ 6-7 คนเท่านั้น ทุกคนทำงานอย่างหนัก ยิ่งช่วงใกล้ส่งสินค้าให้กับทาง 7-11 ครอบครัวและคนงานของเขา แทบไม่ได้หลับได้นอน ทอดสาหร่าย และบรรจุภัณฑ์ แต่เขาสามารถบรรทุกสาหร่ายเถ้าแก่น้อยเต็มคัน ขับไปส่งศูนย์จำหน่าย 7-11 ได้สำเร็จ
จากนั้นเป็นต้นมา สาหร่าย "เถ้าแก่น้อย" ก็ทะยานสู่ตลาดวัยรุ่น และผู้บริโภคที่ชื่นชอบสาหร่ายทอดกรอบได้สำเร็จ    ส่วนต๊อบ ก็กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มใหม่ไฟแรง เปลี่ยนสถานะจากเศรษฐีร้อยล้าน กลายเป็นเศรษฐีพันล้านได้อย่างสำเร็จ
ส่วนเรื่องการเรียนของ ต๊อบ อิทธิพัทธ์ นั้น ตอนนี้เขามีวุฒิการศึกษาสูงสุดเพียงแค่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้ลงเรียนอีกครั้งที่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งแม้ว่าเขาจะเชื่อว่า ประสบการณ์ไม่ได้มาจากทฤษฎีในห้องเรียน แต่มันมาจากการลงมือปฏิบัติก็ตาม แต่ที่เขาเรียนนั่นก็เพื่ออยากจะให้พ่อแม่ได้ภูมิใจ และอยากถ่ายรูปรับปริญญาร่วมกับครอบครัวเพียงเท่านั้น